top of page
ค้นหา

อ่านใบเซอร์ GIA แบบมืออาชีพ

  • รูปภาพนักเขียน: U Diamond
    U Diamond
  • 6 ธ.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

ree

ใบเซอร์เพชร GIA เปรียบเสมือนสูติบัตรของเพชร ที่รวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคุณสมบัติของเพชรไว้อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ซื้อมั่นใจในคุณภาพและความแท้จริงของเพชรทุกเม็ด ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจวิธีอ่านใบเซอร์ GIA แบบเจาะลึก เพื่อให้คุณมั่นใจและเลือกเพชรได้อย่างชาญฉลาดที่สุด


ree

GIA : ย่อมาจาก Gemological Institute Of America เป็นสถาบันอัญมณีศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นผู้กำหนดมาตรฐานเป็นรายแรกๆหรือที่เรารู้จักกันในนาม 4C’s จึงทำให้ใบรังรองอัญมณีจาก GIA มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งได้รับความนิยม และได้รับการยอมรับมากที่สุดในตลาดเครื่องประดับ ในปัจจุบันใบเซอร์เพชร GIA จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้


ree

ใบเซอร์ใหญ่ GIA Diamond Grading Report : เป็นรูปแบบใบเซอร์ที่ออกให้สำหรับเพชรที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 กะรัต โดยในใบเซอร์จะมีแผนภาพประกอบระบุตำแหน่งของตำหนิเพชรอย่างชัดเจน และ Laser Inscription หมายเลขเลเซอร์บนเพชร เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นเพชรเม็ดเดียวกันกับใบเซอร์ที่ได้รับ พร้อมระบุรายละเอียดต่างๆ ของ 4 Cs’ ของเพชรอย่างชัดเจน (Carat Color Clarity และ Cut)


ree

ใบเซอร์เล็ก GIA Diamond Dossier : เป็นรูปแบบใบเซอร์ที่ออกให้สำหรับเพชรที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 กะรัต โดยในใบเซอร์จะไม่มีแผนภาพประกอบระบุตำแหน่งของตำหนิเพชรอย่างชัดเจน แต่ยังคงมี Laser Inscription หมายเลขเลเซอร์บนเพชร เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นเพชรเม็ดเดียวกันกับใบเซอร์ที่ได้รับ พร้อมระบุรายละเอียดต่างๆ ของ 4 Cs’ ของเพชรอย่างชัดเจน (Carat Color Clarity และ Cut)


เว็บไซต์ตรวจสอบเลขใบเซอร์ GIA: https://www.gia.edu/report-check-landing/


ree

ภาพจาก gia.edu


ree
  1. วันที่ GIA ตรวจสอบเพชร

  2. Report Number เป็นหมายเลขที่ลงทะเบียนอยู่ในฐานข้อมูลของ GIA จะมีจำนวน 10 หลักและไม่ซ้ำกัน

  3. Shape and Cutting Style รูปร่างของเพชร และลักษณะการเจียระไน

  4. Measurements ขนาดของเพชรที่ระบุเป็น “เส้นผ่าศูนย์กลาง – เส้นผ่าศูนย์กลาง x ความลึก” สำหรับเพชรทรงกลมและ “ความยาว x ความกว้าง x ความลึก” สำหรับเพชรทรงพิเศษ

  5. Carat Weight น้ำหนักที่ระบุเป็นกะรัต



ree
  1. Color Grade สีของเพชรคือ การจัดลำดับสีของเพชร D-Z เรียงลำดับตั้งแต่ไม่มีสี ไปจนถึงสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาล

  2. Clarity Grade ความสะอาดของเพชร ไม่มีรอยตำหนิ หรือมีตำหนิเยอะ รวมถึงคุณภาพในการเจียระไน

  3. Cut Grade การเจียระไน ความสมดุล สมมาตรของหน้าเพชร ความเรียบของผิวเพชรที่ส่งผลให้เกิดการสะท้อนแสงหรือกระจายแสงได้ดีแตกต่างกันออกไป


ree

ree
  1. Polish ความเงา ความราบเรียบของพื้นผิวเพชร 

  2. Symmetry ความสมมาตรของหน้าเพชร ความถูกต้องของเส้นขอบเพชร รูปร่าง ตำแหน่ง การจัดวาง และการจัดเรียงของส่วนประกอบของเพชร 

  3. Fluorescence การประจายแสงฟลูออเรสเซนซ์ เพชรที่ติด Fluorescence จะมีสีฟ้า และเพชรที่ไม่ติด Fluorescence จะไม่มีสีฟ้า หากเพชรไม่ติด Fluorescence ในใบเซอร์จะระบุว่า None แปลว่าไม่มี และได้รับความนิยมมากกว่า 

  4. Inscription หมายเลข GIA Report Number ที่สลักลงบนเพชร ซึ่งจะเป็นตัวเลขเดียวกันกับใบเซอร์เพชร

  5. Comments ความคิดเห็น ลักษณะอื่นๆ


ree
  1. Proportion Diagram แผนผังสัดส่วนจริงของเพชร


ree
  1. Plotted Diagram การประมาณรูปร่างและลักษณะ ตำแหน่ง ขนาดประมาณของลักษณะความบริสุทธิ์

  2. Key to symbols รายการลักษณะ และสัญลักษณ์ที่แสดงในแผนผังการจัดตำแหน่ง (หากมี)


ree
  1. GIA Color Scale การจัดอันดับสีของ GIA 

  2. GIA Clarity Scale การจัดอันดับความบริสุทธิ์ของ GIA 

  3. GIA Cut Scale การจัดอันดับการเจียระไนของ GIA


ree
  1. Security Features คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัย การพิมพ์ขนาดเล็ก, หน้าจอรักษาความปลอดภัย, ลายน้ำ, บาร์โค้ดสองมิติ, ฮอโลแกรม และการระบุหมายเลขชีท เพื่อป้องกันความถูกปลอมและช่วยในการยืนยันเอกสาร

  2. QR Code ข้อมูลของใบเซอร์เพชรฉบับนี้


การอ่านใบเซอร์เพชร GIA อย่างละเอียดช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในการเลือกเพชรที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการ ใบเซอร์นี้เปรียบเสมือนเครื่องยืนยันคุณสมบัติของเพชรในทุกแง่มุม ทั้งน้ำหนัก สี ความสะอาด การเจียระไน และตำหนิที่อาจมี การทำความเข้าใจรายละเอียดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ แต่ยังช่วยปกป้องคุณจากการซื้อเพชรที่ไม่ตรงตามมาตรฐานอีกด้วย เพชรที่มาพร้อมใบเซอร์ GIA คือการลงทุนที่มีคุณค่าและโปร่งใส

 
 
 

Comments


bottom of page